ห่มสไบย้อนยุคตามรอยละคร เที่ยว 5 วัดดังอยุธยาภายในวันเดียว 

ห่มสไบย้อนยุคตามรอยละคร เที่ยว 5 วัดดังอยุธยาภายในวันเดียว 

การท่องเที่ยววัดในอยุธยา ประวัติศาสตร์อันยาวนานของสยามประเทศ กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง หลังจากที่ละครย้อนยุคอิงประวัติราชธานีเก่าแห่งราชอาณาจักรไทยกลับมาฉายภาคต่อให้เราได้รับชมอีกครั้ง ต้องยอมรับว่า ฉากพระราชวัง และวัดต่าง ๆ ในสมัยกรุงศรีฯ ที่ถูกเนรมิตขึ้นมาประกอบฉากในแต่ละตอนนั้นสวยสะกดสายตาและตรึงใจยิ่งนัก โดยได้นำมาจากร่องรอยหลักฐานที่ยังคงมีให้เห็นอยู่ที่จังหวัดอยุธยาในปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยภาพและความสามารถของพระมหากษัตริย์และบรรพบุรุษไทยในสร้างบ้านเมือง รวมไปถึงการสร้างวัดในสมัยอยุธยาได้เป็นอย่างดี ดูละครแล้วก็อิน มโนว่าเป็นแม่หญิงออเจ้า เดินเล่นอยู่ในราชวัง ชมวัดเก่าแห่งเมืองกรุงศรี แต่ต่อให้อยากวาร์ปไปแคไหน ทำได้เพียงแค่แต่งชุดไทยห่มสไบ แล้วมุ่งหน้าไปเที่ยวเมืองเก่าอยุธยา ว่าแต่วัดในสมัยอยุธยามีกี่วัดกันนะ แล้วเที่ยวอยุธยาภายในวันเดียวได้ไหมสำหรับคนที่มีวันหยุดจำกัดอย่างเรา ไปดูข้อมูลแล้วแพลนไว้ไปเที่ยวตามรอยละครกันดีกว่า 

ภาพจาก https://th.wikipedia.org/

1. วัดพระศรีสรรเพชญ์ 

วัดพระศรีสรรเพชญ์ คือ วัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวง ในสมัยพระเจ้าอู่ทอง หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ได้ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับบริเวณนี้ ก่อนที่พระบรมไตรโลกนาถทรงย้ายพระราชวังไปทางเหนือ และได้โปรดเกล้าให้มีการสร้างเขตพุทธาวาสเพื่อใช้ประกอบพิธีการสำคัญต่าง ๆ มีเจดีย์ศิลปะแบบลังกา 3 องค์ โดยแต่ละองค์มีมณฑปก่อคั่นไว้ ซึ่งเจดีย์ 2 องค์แรก ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2035 โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสถูปเจดีย์ใหญ่ 2 องค์ เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถผู้เป็นพระราชบิดา และ องค์ถัดมาบรรจุพระบรมอัฐิพระบรมราชาธิราชที่ 3 พระบรมเชษฐา ส่วนเจดีย์องค์ที่ 3 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (สมเด็จพระหน่อพุทธางกูร) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระรามาธิดีที่ 2 

นอกจากนี้ ยังมีการสร้างพระวิหารหุ้มทองคำขนาดใหญ่ พระนามว่า “พระศรีสรรเพชญดาญาณ” ประดิษฐานไว้ในวิหาร และได้ถูกพม่าเผาลอกทองคำไปหมดเมื่อคราวเสียกรุงในปี พ.ศ.2310 หลังจากนั้นได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ และในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม จนมีสภาพที่เห็นในปัจจุบัน 

ที่ตั้ง : ต. ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 

เปิดให้เข้าชม : 08.30 – 16.30 น. 

ค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท 

ภาพจาก https://ww2.ayutthaya.go.th/

2. วัดใหญ่ชัยมงคล 

วัดใหญ่ชัยมงคล เดิมชื่อว่า วัดป่าแก้ว หรือ วัดเจ้าพระยาไทย ถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ความโดดเด่นของวัดใหญ่ชัยมงคล คือ มีเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในอยุธยา และยังเชื่อกันว่าเป็นเจดีย์ที่สมเด็จพระนเรศวรโปรดให้สร้างขึ้นในวัดแห่งนี้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบัน วัดใหญ่ชัยมงคลถือว่าเป็นอีกแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดอยุธยา ที่ใครได้มาจังหวัดนี้จะต้องไม่พลาดมาไหว้สักการะพระพุทธชัยมงคลในพระอุโบสถ และ พระนอนในวิหารพระพุทธไสยาสน์ รวมถึงการไปสักการะพระนเรศวรมหาราชที่เป็นอีกจุดสำคัญของวัดใหญ่ชัยมงคล 

ที่ตั้ง : 40/3 หมู่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา 

เปิดให้เข้าชม : 08.00 – 17.00 น. 

ค่าเข้าชม : ชาวไทย ฟรี  ชาวต่างชาติ 20 บาท 

ภาพจาก https://th.wikipedia.org/

3. วัดมหาธาตุ 

วัดมหาธาตุถือว่าเป็นวัดในสมัยอยุธยาตอนต้น มีความสำคัญอย่างมากในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา ถูกสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระรามาธิดีที่ 1 ต่อมา ปี พ.ศ.1927 พระราเมศวร ราชวงศ์อู่ทอง ได้โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานในวัด โดยศิลปะการสร้างพระปรางค์วัดมหาธาตุ รับอิทธิพลมาจากปรางค์ขอม ซึ่งชั้นล่างของปรางค์ก่อสร้างด้วยศิลาแลง และมีช่วงบนก่อด้วยอิฐถือปูน ต่อมา พระเจ้าปราสาททองได้ทรงปฏิสังขรณ์และเสริมพระปรางค์ให้สูงกว่าเดิม แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ยอดพระปรางค์ก็ได้พังลงจนเหลือเพียงชั้นมุขมาจนถึงปัจจุบัน 

ความโดดเด่นของวัดมหาธาตุจนกลายเป็นอีกวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก คือ มีเศียรพระพุทธรูปที่ปกคลุมไปด้วยรากไม้ใหญ่ หน้าวิหารเล็ก ซึ่งมีความเชื่อกันว่า เศียรพระพุทธรูปนี้น่าจะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุง แล้วไม่ได้รับการบูรณะ จนกระทั่งรากไม้ขึ้นปกคลุมพระเศียร ทำให้มีความวิจิตรงดงามแปลกตาไปอีกแบบ จนกลายเป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยี่ยมชมเพื่อให้เห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง 

ที่ตั้ง : เชิงสะพานป่าถ่าน ถ.นเรศวร ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา 

เปิดให้เข้าชม : 08.30 – 16.30 น. 

ค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท 

ภาพจาก https://th.wikipedia.org/

4. วัดไชยวัฒนาราม 

วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดในสมัยอยุธยาตอนปลาย ที่ได้รับการประกาศให้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478  โดยมีพระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์กรุงศรีอยุธยา องค์ที่ 24 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2173 เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา และได้มีการนำศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้นมาใช้ ด้วยการสร้างปรางค์เป็นประธานของวัด อีกทั้งยังมีการนำรูปแบบสถาปัตยกรรมเขมรเข้ามาใช้ในการก่อสร้างปรางค์ เนื่องจากพระเจ้าปราสาททองทรงได้เขมรมาอยู่ใต้อำนาจ 

ภายในพระระเบียงมีพระพุทธรูปปั้นปางมารวิชัย มีลูกกรงเป็นรูปลายกุดั่น ก่อผนังระเบียงด้วยอิฐถือปูน มีพระอุโบสถอยู่ด้านหน้าของวัด ใบเสมาของพระอุโบสถทำด้วยหินสีค่อนข้างออกเขียว ส่วนด้านหน้าพระอุโบสถมีเจดีย์ 2องค์ เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง จำหลักเป็นลายประจำยามและลายก้านขด ซึ่งเป็นรูปแบบศิลปะที่นิยมแพร่หลายในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง 

ที่ตั้ง : ต.บ้านป้อม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา 

เปิดให้เข้าชม : 08.00 – 18.30 น. 

ค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท 

ภาพจาก https://th.wikipedia.org/

5. วัดราชบูรณะ 

วัดราชบูรณะ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดมหาธาตุ มีฐานะเป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา ถูกสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ราชวงศ์สุพรรณภูมิ โดยพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1967 อีกทั้งยังโปรดเกล้าฯ ให้ก่อเจดีย์ 2 องค์ บริเวณถวายพระเพลิงเจ้าอ้ายพระยากับเจ้ายี่พระยา ซึ่งชนช้างกันจนถึงแก่พิราลัย 

พระปรางค์ประธานเป็นศิลปะอยุธยาสมัยแรกที่สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมขอม โดยมีพระปรางค์เป็นประธานของวัด โดยช่องพระปรางค์จะมีพระพุทธรูปปูนปั้นยืนประดิษฐานช่องละ 1 องค์ พระปรางค์มีลวดลายที่สวยงามและประดับด้วยปูนปั้นรูปเทวดา ครุฑ นาค ยักษ์ และเมื่อครั้งเสียกรุง วัดราชบูรณะและวัดมหาธาตุได้รับความเสียหายอย่างมากจากการถูกไฟไหม้ แต่ยังคงเหลือซากตั้งอยู่แสดงถึงความใหญ่โตของวิหารแห่งนี้ ต่อมาในปี พ.ศ.2500 มักจะมีคนร้ายมาลักลอบขุดกรุพระเครื่องโบราณวัตถุที่ฝังไว้ในองค์พระปรางค์กันอยู่เนือง แม้ว่าทางรการจะจับคนร้ายได้ในเวลาต่อมา แต่ก็ได้วัตถุโบราณกลับคืนมาเพียงบางส่วนเท่านั้น และเมื่อกรมศิลปากรได้มีการขุดแต่งพระปรางค์วัดราชบูรณะ จึงได้มีการนำพระพิมพ์ขนาดเล็กที่ขุดได้จากกรุนี้ไปจำหน่ายเป็นของชำร่วย แล้วนำเงินมาสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา เพื่อไว้เก็บวัตถุโบราณมีค่าที่ขุดพบในวัดราชบูรณะ

ที่ตั้ง : ถ.ชีกุน ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 

เปิดให้เข้าชม : 08.30 – 16.30 น. 

ค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท 

สำหรับใครที่อยากย้อนรอยละคร ไปเที่ยวชมสถานที่อิงประวัตศาสตร์ และได้สวดมนต์ไหว้พระศักดิ์สิทธิ์เสริมความเป็นสิริมงคล อย่าได้พลาดกับ 5 วัดดังอยุธยานี้นะคะ ซึ่งสถานที่ตั้งแต่ละแห่งอยู่ไม่ไกลกันเลย สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ภายในวันเดียว รับรองว่า ห่มสไบ สวมชุดไทย ถ่ายรูปสวยได้ฟีลแม่หญิงอยุธยาทุกช็อต จนเลือกโพสลงโซเซียลไม่ถูกเลยล่ะ 

administrator

Related Articles