6 วัตถุโบราณที่ยังหาคำอธิบายไม่ได้

6 วัตถุโบราณที่ยังหาคำอธิบายไม่ได้

นักวิจัยรวมถึงนักโบราณคดีหลายคน ได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์หลายอย่าง บางทีก็เป็นเรื่องที่คนปัจจุบันนึกไม่ถึง บางก็ดูเป็นของธรรมดาในโลกปัจจุบันแต่มันน่าตื่นเต้นตรงที่มันเคยมีในอดีต ไปจนถึงค้นพบในสิ่งที่ยังไม่มีคำใดๆ สามารถอธิบายสิ่งๆ นั้นได้ 

วันนี้เราเลยจะลองพาไปดูว่า สิ่งที่เคยถูกค้นพบมาแล้วแต่เหล่านักวิจัยและนักโบราณคดีทั้งหลายก็ยังไม่มีคำอธิบายให้จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย

เครื่องคอมพิวเตอร์แบบเครื่องกลเครื่องแรกของโลก

เครื่องอันตะคีเธร่า (Antikythera) ได้ชื่อว่าเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้คำนวณทางดาราศาสตร์เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว เจ้าเครื่องนี้ถูกค้นพบในซากเรือที่อยู่ลึกลงไป 45 เมตรในชายฝั่งของประเทศกรีก

เครื่องจริงที่ถูกค้นพบ ภาพจากพิพิธภัณฑ์เอเธนส์

ภาพจำลองโดยพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนี่ยน

เหมือนเราจะมีคำอธิบายใช่ไหม แต่จริงๆ แล้วมันมีมากกว่านั้น เมื่อเจ้าเครื่องนี้ซับซ้อนมาก เทียบได้กับนาฬิกาสมัยศตวรรษที่ 18 เลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีหมายเลขประทับอยู่ด้วยอย่างกับซีเรียลนัมเบอร์ ทั้งข้างในยังมีกลไกที่ซับซ้อนอยู่อีกด้วย ซึ่งความล้ำของมันทำให้นักวิจัยต่างๆ ต้องเริ่มคิดแล้ว่าความเข้าใจในเทคโนโลยีสมัยกรีก-โรมัน ที่เรารู้กันอาจจะไม่ถูกต้องก็เป็นได้

นกซัคคาร่า (The Saqqara Bird)

เครื่องบินของเล่นจากยุคอียิปต์ ที่ถูกค้นพบเมื่อปี 1898 ในสุสาน ปาดีเมน (Pa di Imen) ในประเทศอียิปต์ ทำจากไม้แข็งแกะสลักให้เป็นรูปนกซัคคาร่า นักโบราณคดีคาดการณ์อายุของมันไว้ที่ 2,200 ปี มีน้ำหนักราวๆ 40 กรัมและยาวราวๆ 7 นิ้ว ปัจจุบันยังไม่มีคำอธิบายว่าเจ้านกของเล่นนี้เกิดมาโดยมีเหตุผลใดหรือไม่

แต่อย่างไรก็ตาม นกซัคคาร่า ได้แสดงให้เห็นว่าในยุคอียิปต์โบราณมีความรู้ด้านแอโรไดนามิคและเครื่องบินแล้ว เพราะของเล่นชิ้นนี้มีรูปร่างแบบเดียวกับเครื่องบินในยุคปัจจุบันของเราเป้ะๆ และยังไม่มีคำอธิบายเช่นกันว่าพวกเขาได้ชุดความรู้เหล่านี้ได้อย่างไร

ค้อนแห่งลอนดอน (The London Hammer)

เดือนมิถุนายนปี 1936 ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ แม็กซ์ และ เอ็มม่า ฮาห์น 2 สามีภรรยาออกไปเดินเล่น และเจอเข้ากับก้อนหินที่ไม้งอกออกมาจากข้างใน พวกเขานำวัตถุประหลาดนี้กลับมาบ้านและลองทุบดูด้วยความสงสัย จากนั้นพวกเขาก็ต้องงงไปตามๆ กันเพราะข้างในก้อนหินกลับมีค้อนอยู่ภายใน

london hammer

พวกเขาจึงนำไปมอบให้กับนักโบราณคดีลองศึกษาดู ก่อนจะพบว่าค้อนนี้มาจากยุค ออร์โดวิเชียน (Ordovician) ซึ่งหมายความว่าค้อนนี้มีอายุมากกว่า 400 ล้านปี มันเก่ามากจนด้านไม้กลายเป็นถ่านหินไปแล้ว และในทศวรรษ 1980 คาร์ล บอร์ฟ รังสรรค์นิยม (ผู้มีความเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง) ได้นำค้อนไปตรวจสอบ ก็พบว่าตัวค้อนที่เป็นโลหะมีส่วนผสมของเหล็กอยู่ถึง 96% ซึ่งบริสุทธิ์เกินกว่าที่อยู่ในยุคใดๆ ก็ตามที่ไม่มีเครื่องจักรผลิต

การหลักฐานชิ้นนี้ทำให้หลายคนเริ่มมีแนวคิดที่ว่าไม่ใช่ตัวค้อนที่โบราณ แต่เป็นหินที่ห่อหุ้มมันอยู่ต่างหากที่มาจากยุค 400 ล้านปีที่แล้ว แต่ก็ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่าทำไมหินที่เก่าขนาดนั้นจึงไปห่อค้อนได้

แบกแดดแบตเตอรี่ – แบตเตอรี่อายุ 2,000 ปี

วัตถุโบราณชิ้นนี้สร้างขึ้นจากไหดินเผาขนาด 5.5 นิ้วที่มีกระบอกโลหะอยู่ภายในที่เต็มไปด้วยยางมะตอยและมีแท่งโลหะอีกชิ้นอยู่ตรงกลาง

วิลเลม เคอนิก ผู้ดูแลพิพิธภันฑ์อิรัก ได้ทำการคาดการณ์ไว้ในปี 1940 ว่ามันอาจจะเป็นแบตเตอรี่แบบ เซลล์เดี่ยว (galvanic batteries) และในตอนนั้นก็ยังไม่มีแนวคิดหักล้าง เพราะหากเติมวัตถุที่เป็นด่างหรือกรดเข้าไปในไหก็จะเกิดกระแสไฟฟ้าขึ้นจริงๆ

รอยมือมนุษย์จากยุคครีเตเชียส

ในปี 1995 นักโบราณคดีได้ขุดพบรอยมือที่มีลักษณะคล้ายกับของมนุษย์ยุคปัจจุบันที่มีอายุมากกว่า 300 ปีจากหินที่มาจากยุคครีเตเชียส อย่างไรก็แม้หลายฝ่ายจะเชื่อว่านี่ไม่ใช่ร่องรอยมนุษย์เป็นเพียงไดโนเสาร์ซักตัวเท่านั้น แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของสัตว์ประเภทใด

แผนที่ของ ปีริ ไรส์ (The Piri Reis Map)

ในปี 1929 นักวิจัยคนหนึ่งได้ค้นพบบันทึกหนังกวาง (gazelle’s skin manuscript) ซึ่งพอตรวจสอบดูอย่างละเอียดพบว่าเป็นแผนที่ที่วาดขึ้นโดย ปิริ ไรส์ นักภูมิศาสตร์ตจากตุรกี ที่สร้างขึ้นในปี 1513 หลัง ขณะที่ ไรส์ กลับมาอยู่ตุรกี ภายหลังการเดินเรืออย่างยาวนาน

ในแผนที่ฉบับนี้แสดงให้เห็นถึง ทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป แนวชายฝั่งประเทศบราซิล เกาะเล็กใหญ่ต่างๆ รวมไปถึงทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีใครค้นพบหรือเคยเห็นทวีปแอนตาร์กติกา จนกระทั่งศตวรรษที่ 19 หรือประมาณ 300 ปีหลังจากแผนที่นี้ได้เขียนขึ้น

administrator

Related Articles