เครื่องฟอกอากาศจำเป็นแค่ไหนกับสภาพเมืองไทยท่ามกลางฝุ่น PM 2.5

เครื่องฟอกอากาศจำเป็นแค่ไหนกับสภาพเมืองไทยท่ามกลางฝุ่น PM 2.5

การฟอกอากาศคืออะไร เครื่องฟอกอากาศช่วยอะไร เครื่องฟอกอากาศช่วยได้จริงไหม เครื่องฟอกอากาศช่วยอะไรได้บ้าง เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี เราจะมาหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ 

เครื่องฟอกอากาศคืออะไร 

Air Purifier หรือ เครื่องฟอกอากาศ คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่มีอยู่ในอากาศ รวมไปถึงกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ในบริเวณโดยรอบ ด้วยการดูดเข้าไปในเครื่องให้ผ่านแผ่นกรองเพื่อดักจับสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ แล้วปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาแทน 

เครื่องฟอกอากาศในบ้านจำเป็นไหม

จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ครอบคลุมในหลายพื้นที่ของประเทศไทย อีกทั้งมลพิษอื่น ๆ จากโรงงาน การพาณิชย์ การทำเกษตร การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ควันจากท่อไอเสียรถ รวมไปถึงไรฝุ่น และเชื้อโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เชื้อรา แบคทีเรีย หรือไวรัส ที่มีอยู่ทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ในบ้านของเราเอง ล้วนแต่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจ ผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ ตาอักเสบ ตาแดง เป็นต้น ซึ่งกระทบกับคุณภาพการชีวิต เนื่องจากการสูดดมอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษเข้าสู่ร่างกาย และสะสมก่อโรคจนเจ็บป่วย  

เนื่องจากจุดประสงค์และหลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ คือ กำจัดมลพิษและสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในอากาศ รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยกำจัดตัวต้นเหตุที่ก่อให้เกิดโรค นับว่าเป็นตัวช่วยในการปกป้องด้านสุขภาพได้อีกในรูปแบบหนึ่งเลยทีเดียว  

A human hand is removing the filter of an air purifier, for filtering PM2.5. To bring a filter to remove dust.

เครื่องฟอกอากาศช่วยลดฝุ่นไหม 

ปัจจุบันผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศนิยมนำแผ่นกรอง HEPA มาใช้กับเครื่องฟอกอากาศในแบรนด์ของตนมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่น ซึ่ง แผ่นกรอง HEPA คือ แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง ซึ่งผลิตจากการถักทอด้วยเส้นใยไฟเบอร์กลาส จนทำให้เกิดช่องว่างเล็กมาก ๆ ทำให้สามารถดักจับฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน และกำจัดเชื้อโรคได้ไม่น้อยกว่า 99.997% เลยทีเดียว และยังช่วยให้ดักจับฝุ่นและเชื้อโรคได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย จึงนับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีมากสำหรับยุคที่มีแต่มลพิษเช่นนี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เป็นภูมิแพ้ หรือผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด หรือ ไซนัส 

เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนดีอย่างไร

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าเครื่องฟอกอากาศทำหน้าที่ดักจับเชื้อโรค ทำให้มีผู้นิยมวางเครื่องฟอกอากาศไว้ในห้องนอน เพราะในช่วงเวลานอนหลับตลอด 6-8 ชั่วโมง การได้รับอากาศที่บริสุทธิ์และสดชื่นเข้าสู่ปอด จะช่วยให้มีประสิทธิภาพการนอนหลับที่ดี  เพราะไม่ถูกฝุ่นละอองหรือสารก่อให้เกิดภูมิแพ้รบกวนให้ตื่นขึ้นมากลางดึก ทำให้หลับสนิทได้ตลอดคืน ลดปัญหาสุุขภาพจากการนอนไม่เพียงพอได้เป็นอย่างดี 

เครื่องฟอกอากาศใช้ยังไง 

เมื่อเริ่มรู้สึกว่าภายในบ้านมีกลิ่นอับ มีฝุ่น หรือเกิดอาการไอ จาม มีน้ำมูก ควรเปิดเครื่องฟอกอากาศ เพื่อให้เครื่องได้ช่วยตรวจจับสิ่งแปลกปลอมและลดมลพิษทางอากาศและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน  โดยการเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศ สามารถเปิดใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อค่าฝุ่นลดลงจนไม่เกินระดับมาตรฐาน ระบบการทำงานของเครื่องฟอกอากาศจะลดระดับการทำงานให้เบาลงเช่นกัน เพื่อไม่ให้เครื่องทำงานหนักเกินไป และเราสามารถปิดการทำงานของเครื่องได้เลย เมื่อรู้สึกอากาศสดชื่นขึ้น จนหายใจได้สะดวก เพื่อเป็นการประหยัดไฟไปในตัว และถนอมอายุการใช้งานของเครื่องฟอกอากาศ เพราะเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นของแต่ละแบรนด์จะรองรับการทำงานของเครื่องไม่เท่ากัน บางรุ่นรองรับการทำงานได้นาน 8 ชั่วโมง  บางรุ่นรองรับการทำงานเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น จึงต้องดูข้อมูลการใช้งานของเครื่องฟอกอากาศให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ 

เปิดหน้าต่างขณะเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศได้ไหม 

ไม่ควรเปิดหน้าประตู หน้าต่าง หรือมีช่องลมที่ให้อากาศจากภายนอกเข้ามาภายในบ้านขณะเปิดใช้เครื่องฟอกอากาศ เพราะการหมุนเวียนระหว่างอากาศภายนอกที่ปนเปื้อนไปด้วยมลพิษจะเข้ามาแทนที่อากาศสะอาดที่ถูกฟอกแล้วอยู่ตลอดเวลา เป็นเหตุให้เครื่องฟอกอากาศทำงานหนักมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคือ มีโอกาสสูงมากที่เราจะสูดเอามลพิษเข้าสู่ร่างกายเพราะระบบในเครื่องฟอกอากาศทำงานไม่ทัน  

เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี

เนื่องจากปัจจุบันสภาพอากาศในเมืองไทยมีผลเสียต่อสุขภาพที่เข้าขั้นวิกฤต ทำให้เครื่องฟอกอากาศเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น จึงมีผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศออกมาตีตลาดหลายแบรนด์ หลากรุ่น จนผู้บริโภคสับสนไม่รู้จะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดีกว่ากัน ซึ่งเราเองก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่าแบรนด์ไหนดีกว่ากัน แต่เรามีวิธีการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมต่อการใช้งาน เพื่อใช้ประกอบในการตัดสินใจ

1. ขนาดห้อง 

เครื่องฟอกอากาศนอกจากจะมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่นแล้ว ยังมีหลายขนาดให้เลือกตามความเหมาะสมของสถานที่ด้วย เพราะลักษณะการอยู่อาศัย และพื้นที่ของแต่ละคนก็ต่างกันไป อย่างการอาศัยอยู่คอนโด หรือห้องเช่า หากจะใช้เครื่องฟอกอากาศตัวใหญ่ยิ่งทำให้เปลืองพื้นที่และเปลืองไฟ หรือบ้านหลังใหญ่แต่ใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กอาจได้ประสิทธิภาพไม่เพียงพอ 

2. ราคา 

ราคาก็เป็นอีกสิ่งแรก ๆ ที่หลายคนย่อมต้องใช้เป็นปัจจัยในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ และเนื่องจากต้องมีการเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจำ เพื่อให้เครื่องฟอกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ราคาของแผ่นกรองจึงเป็นอีกสิ่งจำเป็นที่ควรเช็กให้ดี เพื่อให้อยู่ในเรทราคาที่สามารถซื้อเปลี่ยนได้ 

3.ระบบการทำงาน 

ควรเช็กระบบการทำงาน และคุณสมบัติของเครื่องว่าตอบโจทย์กับความต้องการของเรามากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น การตรวจจับอุณหภูมิ ระบบเซ็นเซอร์ รีโมทควบคุมการทำงาน ตัวควบคุมความเร็ว ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นส่วนประกอบที่ควรนำมาพิจารณาด้วยเช่นกัน เพื่อให้ได้เครื่องฟอกอากาศตรงตามที่ต้องการมากที่สุด 

4. ค่า Airflow 

ค่า Airflow คือ ตัววัดความเร็วลมจากปริมาณอากาศที่ดูดเข้าไป และเวลาการปล่อยออกมา ยิ่งมีค่า Airflow สูงเท่าไร ประสิทธิภาพการฟอกอากาศยิ่งดี 

5. ค่า CADR 

Clean Air Delivery Rate หรือตัวย่อ CADR คือ ค่าสากลที่แสดงถึงอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ ใช้วัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ เครื่องที่มี CADR สูง ย่อมมีประสิทธิภาพในการทำงานสูง 

6. ระดับเสียงของเครื่องขณะทำงาน 

เครื่องฟอกอากาศที่ดีไม่ควรมีเสียงดังขณะเปิดใช้งาน หรือมีเสียงต่ำที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนขณะนอนหลับ โดยระดับเสียงของเครื่องฟอกอากาศไม่ควรเกิน 30-31 เดซิเบล 

7. ประหยัดไฟ 

เครื่องฟอกอากาศที่ประหยัดไฟ มักจะขึ้นอยู่กับแผ่นกรอง แผ่นกรองที่อากาศสามารถผ่านได้ดี ส่งผลให้เครื่องฟอกอากาศทำงานไม่หนักเกินไป ช่วยประหยัดไฟได้ดีกว่าแผ่นกรองหนา ๆ ที่อากาศผ่านเข้าได้ยาก และอีกสิ่งที่ควรมองหา คือ ฉลากไฟเบอร์ 5 ที่การันตีความประหยัดไฟ ยิ่งช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเครื่องฟอกอากาศจะมีประโยชน์ต่อระบบชีวิตยุคมลพิษครองเมือง แต่การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพและเหมาะสมต่อการใช้งาน ย่อมจะทำให้คุ้มค่าทั้งในเรื่องของสุขภาพที่ดี และมีความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอีกด้วย 

administrator

Related Articles